เอาจริงๆ นอกจาก Davinci Code กับ Inferno แล้ว ก็มี Angle and Demon ที่เราชอบมากๆ(และหนังก็ยำ Inferno ซะเละเลย สาปส่งหนังถึงทุกวันนี้) ...เหมือนเป็น signature ของแกว่าต้องมีเล่มเจ๋งๆสลับกับเล่มที่น่าผิดหวังออกมา

Origin ก็น่าผิดหวัง ไม่รู้นะ สำหรับคนที่ดูหนังไซไฟมาพอสมควร และอยู่ในสายคอมพ์ หลายอย่างในนิยายเรื่องนี้ แทบไม่มีอะไรใหม่

สิ่งที่เราว้าวกับมันมีอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้น ซึ่งเป็นทฤษฎีฝั่งฟิสิกส์ เคมี และชีวะที่เค้าเอามาใช้ แบบ เชี่ยยย คิดได้ไงวะ

กลับกันนักฟิสิกส์มาอ่าน อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับที่เรารู้สึกเรื่องคอมพ์ก็ได้ 5555



กับชอบสิ่งที่แดน บราวน์ ทำได้ดีเสมอ คือการปั้นตัวละครหลัก นอกจากแลงดอน ตัวละครประจำเล่มของพี่แก ล้วนแล้วแต่น่าจดจำทั้งสิ้น โดยเฉพาะตัวเอกหญิง 😂 จำได้ตั้งแต่โซฟีภาคแรกอ่ะ

สรุปนี่ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์วิทยา หรือสายลับ 007 เนี่ย...

อ่ะ! และถึงเราจะเฉยๆมากกับเรื่องคอมพ์ที่แกยกมา แต่ก็ปฏิเสฐไม่ได้ ว่านี่คือนักเขียนนิยายที่รอบรู้หลายด้านมาก แถมเป็นนักรีเสิร์ชขั้นเทพ โดยเฉพาะศิลปะยุคเก่าและสัญลักษณ์วิทยา (แหงสิ แลงดอนมันเป็น อจ ด้านสัญลักษณ์)

ถึงอย่างงั้น ว่ากันตรงๆ เล่มนี้มีสัญลักษณ์น้อยกว่าเดิมมาก และแทนที่ด้วยการเดินเรื่องจากจุด A ไป จุด B ซะเยอะ มันเข้าที่เข้าทางช้า กว่าจะติดเครื่องก็ปาไป 1/4 ของเล่มแล้ว และถ้าเอาตามความรู้สึกเรา มันกินไป 1/3 ของเล่มเลย

Origin จึงถือว่าเป็นงานในชุดโรเบิร์ต แลงดอน ที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับเรา ถึงใครๆจะสาบส่งสาส์นลับที่สาบสูญ(จำชื่ออิ้งบ่ได้)กัน เราว่ามันยังระทึกกว่านี้ แค่อีเล่มนั้นจบง่อยไปหน่อย แต่ระหว่างทางก็คงมาตรฐานไว้ได้

นิยายเล่มนี้ จึงไม่สนุกสำหรับเรา แต่อาจจะสนุกสำหรับคุณ และถึงมันจะไม่สนุกมากนัก แต่มันก็ไม่ได้แย่ สิ่งที่มันตั้งคำถามค่อนข้างน่าสนใจ

หลายอย่างเราเดาถูกตั้งแต่บทแรกๆ ในขณะที่อีกหลายอย่าง เราสงสัยว่ามันจะลากไปจบได้ยังไง(วะ) และมันก็จบได้(ว่ะ)แบบสวยๆ

จริงๆไอเดียมันดีใช้ได้เลย แต่ปัญหาของมันคือ มันเล่าไม่สนุก มันทิ้งจุดดีๆของนิยายชุดนี้ไป ทั้งสัญลักษณ์คำใบ้ และองค์กรต่างๆที่อิงเรื่องจริง สองอย่างนี้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

กับเรื่องของเวลา นิยายเรื่องนี้มาช้ามากกก ประเด็นสดใหม่อันเล็กๆของมัน จึงถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลือกที่เชยไปแล้วอย่างน่าเสียดาย

5.5/10