Star Trek Discovery และ Star Trek Piccard คือสองซีรีส์ชุดสตาร์ เทร็ค ที่กำลังฉายอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่นับจักรวาลภาพยนต์ที่สรรค์สร้างโดย JJ Abram หรือที่ถูกเรียกกันว่า Kelvin Timeline ซึ่งนำแสดงโดยคริส ไพน์ (Wonder Woman) โซลอี้ ซัลดานา (Avenger , Avatar) รวมถึง ไซม่อน เพ็ก (Mission Impossible) และ ดาราหน้าคุ้นอีกมากมาย ก็มีกำหนดฉายออกมาแล้ว

ปฏิเสฐไมได้เลย ว่านี่คือแฟรนไชส์ที่มีอายุยาวนาน และ มีแฟนๆ รอสนับสนุนตอนใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงผมด้วย โดยมีทั้งแฟนรุ่นเก่า และ รุ่นใหม่ ถึงในแง่ภาพยนต์จะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าจักรวาล Star Wars แต่มันก็ไม่ได้แผ่วเลย

#เพศหญิง ตัวละครหญิง เพศชาย ตัวละครชาย ที่จะถูกกล่าวถึง หมายถึงเพศกำเนิดไม่นับเพศวิถีนะครับ


Star Trek กับเรื่องราวในยุคใหม่

แฟรนไชส์ที่มีอายุมาอย่างยาวนาน รวมถึงอุตสาหกรรมบันเทิงของฮอลลีวูด ล้วนแล้วแต่ปรับตัวเข้าหาสังคมในยุคสมัยนั้นไม่มากก็น้อย ไม่เว้นแม้แต่ Star Trek ทั้งในแง่ของเทคนิคการถ่ายทำ การวางเส้นเรื่องที่เน้นแอคชั่นมากขึ้น (ตามเทคโนโลยีการสร้างที่เทพขึ้น) การผู้เรื่องราวเป็นมหากาพย์ยาวๆ ในขณะที่ Star Trek ยุคเก่าๆ มักจะจบในตอน หรือถึงมีเส้นเรื่องหลัก ก็ยังมีเรื่องราวให้จบในตอนอยู่ (นึกสภาพโคนันที่นานๆ ที ชายชุดดำโผล่มา นั่นแหละครับ)

และความเท่าเทียมกันของคนทุกคนเอง ก็ถูกพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยเช่นกัน

แปลกใจไหมครับ Star Trek โดยเนื้อเรื่องแล้ว คือสังคมยูโทเปีย (หรือดิสโทรเปียวะ หลังๆ ไม่แน่ใจละ ดาร์คจัด) คนเราเท่าเทียม ซึ่งอาจจะไม่เท่ากันด้วยยศ ตำแหน่งภายในยาน ใดๆ ก็ตาม แต่มันก็ไม่สนับสนุใหัแบ่งแยกใครด้วยเผ่าพันธุ์กำเนิด หรือ เพศกำเนิด

หรือผมคิดไปเอง?


Star Trek Discovery เฟมินิสต์เกินไป

เนื่องจากถูกสร้างในยุคที่ความเท่าเทียม ทั้งในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา และ เพศ กำลังถูกขับเคลื่อนโดยเป็นกระแสสังคมโลก ทั้งจากสถานการณ์ทางการเมือง และ การส่งต่อแนวคิดความเท่าเทียมจากช่วงเวลาก่อนหน้า สื่อบันเทิงหลายสื่อซึ่งถูกสร้างโดยคนที่มีแนวคิดนี้ (หรือมีแนวคิดอยากเอาใจคนมีแนวคิดนี้) จึงปรับตัวเข้าหา และ ใส่มันเข้าไปในผลงานที่เราได้เห็นกัน

Star Trek Discovery เล่นใหญ่จัดเต็มตั้งแต่ให้ตัวเอกที่ดำเนินเรื่องมีเพศกำเนิดเป็นหญิง เป็นคนผิวสี มีตัวละครเอเชียเป็นกัปตันยานในช่วงแรก รวมถึงความรักของ LGBTQ เองก็ถูกพูดถึงอยู่ในซีรีส์ชุดนี้ เรียกว่าถ้ามีเช็คลิสต์ให้เช็ค ก็เช็คถูกได้ทุกช่อง

"เฟมินิสต์เกินไป" อาจจะไม่ใช่ความเห็นของแฟนทุกคน แน่นอน มีทั้งคนที่ชอบ และ ไม่ชอบ แต่ปฏิเสฐไม่ได้ว่าแฟนหลายคน มองซีรีส์ชุดนี้ให้เป็นแบบนี้

คำถามคือ อะไรคือเฟมินิสต์เกินไป? ขอบเขตของการเฟมินิสต์ที่ไม่เกินไปอยู่ตรงไหน? และ "ชายเป็นใหญ่เกินไป" ถือว่าผิดไหม?

ผู้เขียนเองมีความเห็นส่วนตัวที่ชัดเจนอยู่แล้วครับ แต่ท่านผู้อ่านล่ะ? มีคำถามอะไรน่าสนใจ หรือ คำตอบน่าสนใจ ลองคุยกันได้ครับ



ที่จริงไม่ใช่ครั้งแรกที่ Star Trek มีตัวละครนำเป็นเพศหญิง

เพราะครั้งแรกที่ Star Trek มีกัปตันเป็นผู้หญิงนั้น มันมีมาก่อนตั้งแต่ Star Trek Voyager ที่ออกฉายปี 1995 หรือ พ.ศ. 2538 โน้นนนนนน

สมัยนั้นจะมีคำว่าเฟมินิสต์เกินไปไหม ... ไม่รู้ครับ ... (กวนตีนละแหละ)

แน่นอนครับ เหมือนกับ Discovery เลย คือมีทั้งคนที่ชอบ และ ไม่ชอบ ทั้งไม่ชอบที่มันไม่สนุก หรือ ไม่ชอบที่กัปตันเป็นผู้หญิง ...

โดยส่วนตัว ถ้ามองกลับไปจากสมัยนี้ ก็นับว่าซีรีส์เรื่องนี้ ทันสมัยสุดๆ ครับ (เอ๊ะ หรือเพราะเราไม่ค่อยก้าวไหนไปกัน) อาจเป็นเพราะสังคมอเมริกา มีการพูดถึงเรื่องความเท่าเทียมมานานนนนนนนนนนนนนน ก็เป็นได้ และ สามารถทำได้ดีด้วย คือถ้าตั้งใจจะเอามาขายคนที่ชอบความเท่าเทียม ตัวเส้นเรื่องก็ทำให้กัปตันคนนี้ เป็นกัปตอนที่ดีสมที่ควรจะเป็น ไม่ค่อยจะโดยอำนาจของผู้ชายไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ไหนข่มให้ยอมได้ มิหนำซ้ำ ซีรีส์เองเสียเอง ที่ให้ตัวละครชายในเรื่องดูถูกความเป็นผู้หญิงของกัปตัน (ก่อนจะพ่ายแพ้ หรือ ใบ้แดกไปตามสูตร)

ผมใช้คำว่า "ไม่ค่อย" นะครับ เนื่องจากบางตอนก็บอกได้ยากครับ เช่น ตอนหนึ่งของซีรีส์ ทั้งกัปตันและต้นเรือ ต้องถูกทิ้งไว้บนดาวเคราะห์ เพราะว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย และ อาจจะติดลูกเรือได้ ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตกันไปครับ ศึกษาพืช ศึกษานก ศึกษาไม้ ศึกษากันและกัน (ว่าไปนั่น)

ตามประสาคนที่อยู่ด้วยกันอ่ะครับ มันก็จักกะจี้ใจกันได้อยู่แล้วครับ และ มนุษย์ทุกคนล้วนอ่อนแอได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นกัปตันยานใหญ่จากไหน เพียงแต่ว่า บทเค้าเลือกจะให้กัปตันซึ่งเป็นผู้หญิงมีมุมอ่อนแอ และ ต้นเรือผู้ชายเข้มแข็ง ก็เท่านั้นเองค๊าบบบบบบบ

ถ้าไม่นับเรื่องนี้ ที่จริงตอนนี้ มีประโยคแสดงความรักความห่วงใยที่คมคายมากครับ และ มืออาชีพมาก สำหรับคนที่ทำงานด้วยกัน ก็ยังแนะนำให้ดูอยู่นะ

หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะรู้สึกว่า เฮ้ยยย ก็แค่นี้เอง

คือ .... นั่นสำหรับกัปตันครับ

แม้ความพยายามจะเท่าเทียมกันจะมีมากแค่ไหน แต่ตัวละครลูกเรือ หรือ ชาวบ้านชาวช่องเพศหญิงในเรื่อง ก็มักจะถูกปกป้องโดยตัวละครเพศชายครับ อย่างดีก็ดูแลตัวเองได้ อะไรทำนองนั้น ที่ผมจะสื่อก็คือ มันยังคงมีเงาของ "สังคมชายเป็นใหญ่" อยู่ในเรื่องอยู่นั่นเอง

ส่วนผู้อ่าน (หรือแม้แต่ผม) จะชอบ หรือ ไม่ชอบ สังคมชายเป็นใหญ่ อันนี้เป็นอีกเรื่องนึงนะครับ

ตามนั้น โอเคนัมเบอร์วัน



Star Trek Original ยิ่งกว่านี้อีกน้องเอ้ย

ใช่ครับ Star Trek Original คือ Star Trek ชุดแรกที่ฉายออกสู่สายตาผู้ชม และ เส้นเรื่องนี้ ถูกเอามารีเมคใหม่ในปี 2009 โดย JJ Abram นั่นแหละ ทั้งกัปตันเคิร์ก สป็อค อูฮูร่า หมอแมคคอย สกอตตี้ ซูลู เชคอฟ และ อีกหลายตัวละครที่ท่านผู้อ่านซึ่งไม่รู้จักโลก Star Trek นัก แต่เคยดูหนังฉบับ 2009 เป็นต้นมาจะพอรู้จัก

ตัวละครในฉบับเก่านั้น เปิดมาตอนแรกก็เอาเลยครับ ตัวละครหญิงในเรื่อง หลงรักกัปตันผู้หล่อเหลา ต้นเรือเพศหญิง และ ลูกเรือผู้หญิงอีกคน ต่างแอบรักกัปตันไพค์กันหมด

ผมอาจจะคิดไปเอง...

ตอนสองของ Star Trek ฉบับเก่า มีการเปลี่ยนนักแสดงยกแผงครับ! เรื่องนี้เล่ากันได้ยาวเลย เอาเป็นว่า ติดไว้ แล้วมาเล่านะ แต่นักแสดงเพียงคนเดียวที่ยังได้ไปต่อ คือลีโอนาร์ด นิมอย หรือ คนที่รับบท สป็อค ครับ เพราะคนดูชอบ และ ผู้สร้างเอง ก็ชอบ

*นิมอยเอง มารับเชิญใน Star Trek ปี 2009 ด้วยนะครับ ใครเคยดูหนังฉบับใหม่น่าจะจำแกได้

กลับมาสะพานเรือครับ ออกอวกาศไปซะไกลมาก คืองี้ครับ อ่ะแฮ่ม! ระหว่างที่กัปตันเคิร์กของเราลงไปบนผิวดาว แล้วทำภารกิจตามเรื่องไป สป็อคในฐานะต้นเรือ ก็ต้องรักษาการคุมยานถูกไหมครับ ตัวละครอูฮูร่า ในหนังฉบับใหม่เป็นแฟนกับสป็อคครับ ในฉบับเก่าเค้าก็มีซัมติงครับ แต่ยังครับ ตอนนี้ยัง

อูฮูร่าเดินมาหาสป็อคครับ ส่งรายงาน และ ส่งสายตาหวานๆ สป็อคแกก็ติเรื่องรายงานไป และ อูฮูร่าก็บอกว่า ถ้าได้ยินคำว่าความถี่อีกครั้งเดียว น่าจะบ้าตายแน่ๆ (อันนี้ฮา)

สป็อค "มันไม่มีเหตุผลเลย ที่เจ้าหน้าที่สื่อสาร จะเกลียดคำว่า ความถี่ ... ผมไม่มีคำตอบ"

อูฮูร่า  "ไม่ คุณมีคำตอบค่ะ .. ฉันผู้หญิงไม่มีเหตุผลหรอก ซึ่งฉันก็รู้สึกว่าตัวเองนั่งอยู่หน้าอุปกรณ์สื่อสารมากไป ลองบอกสิคะว่าฉันเป็นผู้หญิงมีเสนห์แค่ไหน หรือ ถามว่าฉันเคยมีความรักไหม หรือ เล่าให้ฟังสิคะ ว่าดาววัลแคนสวยขนาดไหน ยามที่พระจันทร์เต็มดวง"

สป็อค "วัลแคนไม่มีดวงจันทร์ คุณอูฮูร่า"

อูฮูร่า "นึกไว้แล้วเชียยยยยว คุณสป็อค"

...

บ้าาาา แกกกกก เค้าเกี้ยวกันปกตินั่นแหละ ใช่ครับ! เค้าจีบกัน และผมอาจจะนึกไปเองก็ได้ 

ผมเลยปิดเสียงพากย์ แล้ว ฟังภาษาอังกฤษครับ

อูฮูร่า "No , You have an answer. I'm an illogical woman who's beginning feel to much a part of that communication console." 

ก็คือ พากย์ไทยทำให้เราเข้าใจผิดไปครับ เพราะบทเดิมเองไม่ได้เหมาว่าความเป็นผู้หญิงไม่มีเหตุผล แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ออกจากปากเพศหญิง อันนี้แน่นอน

ซึ่งผมละส่วนนี้ให้แต่ละคนเสนอความเห็นดูครับ


Star Trek และ ความเท่าเทียมกัน

อย่างที่ผมบอกตั้งแต่แรกนั่นแหละครับ Star Trek มันไม่ได้เท่ากันอยู่แล้ว ด้วยยศ ฐานะ และ ตำแหน่งภายในยาน แต่ในเส้นเรื่องใหม่ๆ ทุกวันนี้ มันก็บอกเล่าด้วยแนวคิดที่ว่า หากถอดเครื่องแบบออก คนเราก็เท่ากันอยู่นั่นเอง และ มันเปิดพื้นที่ให้กับความเท่าเทียมของเพศกำเนิด ชาย หญิง และความรักของคนทุกเพศ สามารถมีบทบาทในเรื่องราวได้

นอกจากนี้ ตัวละครหญิงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ถูกช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว ตัวละครชายเอง ก็ถูกช่วยเหลือโดยตัวละครหญิงได้เช่นกัน ภาพที่เห็นมันจึงเป็น "คนหนึ่งคน ช่วยคนอีกคน" แค่นั้น

ผมเองมีแนวคิดที่เห็นด้วยกับเรื่องความเท่าเทียม ที่จริงอ่านบทความมาก็ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ผมก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความเห็นครับ อย่างไรก็ดี ขอชื่นชม Star Trek ยุคใหม่ที่สามารถทำเรื่องนี้ได้ออกมาลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเพราะเชื่อมันอย่างนั้น หรือ แค่จะขายคนดูก็ตาม

แต่ถามว่าเงาของ "ชายเป็นใหญ" ยังคงมีอยู่ไหม มีแน่นอนครับ แม้แต่ตัวผมเอง หรือ ท่านผู้อ่านหลายท่าน ก็ยังได้รับอิทธิพลนี้มาจากการเลี้ยงดู การเติบโต จึงไม่ควรแปลกใจเลย ที่ซีรีส์นี้ ถึงแม้จะนำเสนออกมาน่าชื่นชมแค่ไหน ก็ยังมีจุดที่ก้าวไม่พ้นอยู่

และไม่รู้ว่าจะพ้นเมื่อไหร่ด้วย

อย่างที่บอก สื่อบันเทิงพัฒนาตามสังคมครับ และ สังคมอาจจะพัฒนาไปสู่จุดไหนก็ได้ อนาคตอีกร้อยปีนับจากนี้ หลังจากที่ผมกับท่านผู้อ่านลาโลกบ๊ายบาย สังคมอาจจะพลิกไปจนเราคาดไม่ถึงเลยก็ได้ ซึ่งไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยเราก็ทำสังคมในตอนที่เราอยู่ให้มันใกล้เคียงตามอุดมคติเท่าที่ทำได้ ก็น่าจะตอบโจทย์มนุษย์อย่างเราได้แล้วครับ

ไม่แน่ครับ คนที่อยากได้สังคมเท่าเทียม อาจจะได้เห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดในช่วงชีวิตเราก็เป็นได้

เสียดายอย่างเดียวเลย

อยากขึ้นยานแบบเอนเตอร์ไพรซ์ง่ะ ไม่ได้เห็นในชวงชีวิตนี้แน่ๆ

เส้าาาาา