อนึ่งบทความนี้ยาวมาก แต่อยากเขียน เตือนไว้ก่อน เผื่อใครไม่อยากอ่านยาว (ไม่มียาวไปไม่อ่านให้ในรอบนี้ เพราะอยากให้อ่านยาวๆ 555) 1.โรงหนัง Vista เป็นโรงประเภทอะไร ผมเองก็จำแนกมันไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ Stand Alone แน่ๆ จะเป็น Mini Theatre ก็มีขนาดโรงตั้ง 7 โรง (แถมโรงใหญ่สุด ก็มีที่มหาศาล) จะเป็น Multiplex ก็ยังดูเปิ่นๆเป๋อๆ เรียกว่า อยู่ระหว่างสองสิ่งนี้ เฉกเช่นเดียวกับที่มันอยู่ระหว่างยุคสมัย
2.ไล่อ่านในเน็ต พบว่าเมื่อก่อน โรงหนังนี้ยิ่งใหญ่มาก เป็นโรงที่มาเพื่อทำให้โรงอื่นในเชียงใหม่ดับดิ้นจริงๆ พอเห็นสภาพทุกวันนี้ เลยคิดว่า การที่โรง Multiplex อย่าง Major หรือ SF เข้ามา แล้วแย่งฐานลูกค้า ก็คงเป็นอารมณ์เดียวกันกับตอนนั้น (มีเกิดก็ต้องมีดับ) 3.กาดสวนแก้วเป็นห้างเก่าแก่ และมีโรงหนังในตัว ที่นครสวรรค์ก็มีห้างอย่างแฟร์ลี่แลนด์ ศรีไกรลาศ ที่มีโรงหนังในตัวเช่นกัน สมัยมัธยม ศรีไกรลาศเหลือแต่ร้านหนังสือ ในขณะที่ทุกวันนี้ แฟร์ลี่แลนด์ก็ยังเปิดอยู่ (เทียบอัตราประชากรแล้ว คึกคักกว่ากาดสวนแก้วอีก ถถถถ) ตอนมัธยมแฟร์ก็ยังมีโรงหนังเปิดอยู่ ก็ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวจะไปลอง จะไปจะมา จนโรงหนังปิดลาจากไปก่อน (ลาก่อย) ความทรงจำเกี่ยวกับโรงหนังประเภทนี้ คือไม่ใช่ 2 เจ้าใหญ่ เลยมีแค่เรื่องสุริโยทัยตอนเด็ก (ที่แฟร์หรือศรีไกรลาศก็ลืมไปแล้ว) แถมหลับตลอดอีก พ่อแม่อยากดูว่างั้นแหละ ตื่นมาก็เครดิตหนังขึ้นแล้ว (โดนปลุก) เรียกว่าจำไม่ได้เลยก็ว่าได้ 4.วันนี้ได้ฤกษ์ดี เลยลอง 5.ค่าตั๋วสำหรับวันแพงๆของ 2 เจ้าใหญ่ ถือว่าถูกมาก จ - พ 90 บาท วันอื่นๆ และนขัตฤกษ์ เทศกาล 110 บาท (แต่ทั้ง Major และ SF ก็มีวันและเวลาที่ 80 - 120 อยู่ทุกสัปดาห์)
6.ตั๋วเป็นกระดาษสลิป(แบบในภาพ) เรียกว่าใครจะเก็บตั๋วหนังจากโรงนี้ คงต้องลงทุนเคลือบ หรือใส่สมุดหน่อย ไม่งั้นคงลบเลือนอย่างรวดเร็วเหมือนสลิปเซเว่น 7.สภาพภายนอกก็คือสภาพกาดสวนแก้วอ่ะแหละ คล้ายๆห้างท้องถิ่นทุกๆจังหวัด แต่ก็เห็นว่ามีการรีโนเวทข้างนอกโรงหนังอยู่ (เมื่อหลายปีมาแล้ว) 8.ดูรอบ 17.30 จะเข้าประตู พนง ถามว่า ดูโรงนี้เหรอ อ้อ กำลังจะลงไปถามที่ขายตั๋วพอดี ว่ามีคนดูรอบนี้ไหม (ไม่มีเคาก็ยกเลิกฉาย) อีนี่สตั๊นแดก ดู พนง ไขกุญแจโรง แบบคนน้อยๆก็เคยดูนะ แต่ดูคนเดียวเลยเหรอวะะะ 9.เสียงแอร์ไม่ดัง แต่มันไม่ควรจะได้ยินแต่แรกแล้วโว้ยยยยย แต่ก็ทำใจแล้ว ส่วนเบาะ ก็เก่าตามอายุมัน สำหรับผมไม่ถือว่าแย่ แต่ถ้าปรับปรุงก็จะขอบคุณมากๆ โรงที่ดูเป็นโรง 1 ซึ่งถือเป็นโรงใหญ่ แถวเก้าอี้จะโค้งแบบเห็นได้ชัด คิดว่าโรงสมัยใหม่น่าจะไม่โค้งขนาดนี้ ที่นั่งจะกว้างน้อยกว่าโรงสมัยใหม่ แต่ที่นั่งเยอะมากกกก เชื่อแล้วว่ายิ่งใหญ่จริงๆ จอ ไม่มีการขยายหดแบบทุกวันนี้ จอก็มีเท่าที่มันมี ถ้ามา 16:9 ก็จะเต็ม ถ้ามาแบบ Cinema Scope ก็จะมีขอบดำด้านบนแทน มีผ้าม่านไว้ปิดจอ แหม่ คลาสสิคจริงๆ เสียง เป็นระบบเทพในสมัยนั้น คือ Dolby Digital (น่าจะ 5.1) ส่วนเครื่องฉายก็คง Digital แล้วแหละ อันนี้ถือว่าไม่เลวร้าย ที่แย่หน่อยคือจอมันเก่า ก็จะมีลายหน่อยๆ ตอนแสงจ้ามากๆ จะเห็นรอยจางๆ 10.โรงนี้ ส่วนมากเป็นพากษ์ไทย ซึ่งแถวบ้านผม(บิ๊กซี นว.) ก็อารมณ์นี้ คือโตมากับมันอ่ะ + ชอบพากษ์ไทย เป็นแฟนหนังพากษ์ไทยเลย (ว่างๆจะเขียนว่ารู้ข้อดีซาวน์แทรก ทำไมยังดูพากษ์อยู่) เลยไม่มีปัญหากับตรงนี้ 11.สรุป ดูไปดูมา หนังเริ่มสักพัก มีเสียงเคี้ยวป๊อปคอร์น เลยหันไปดู เหยดเข้ มีคนดูด้วยอีกสองคน (ตอนลุกออกจากโรงยังไม่วายหันไปดูว่าคนใช่มั๊ย อีนี่หลอน 5555 สรุป พี่ ผช สองคน สบายใจ) ความรู้สึกสำหรับเราเลย คือหายคาใจ อยากรู้ว่าโรงสมัยก่อนมันประมาณไหน เพราะตอนเด็กจำไม่ได้ ก็ได้รู้สมใจ แล้วก็ประทับใจกับบรรยากาศด้านนอกโรงมาก ส่วนเรื่องเทคโนโลยีการฉาย และตัวโรง ที่อาจจะเก่าไปหน่อย หรือที่นั่งแคบ อันนี้เราโอเคกะมัน คือเข้าใจว่าถ้าไม่รีโนเวทอีก มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ไม่ถึงกับรับไม่ได้ มันยังคงมอบความสุขให้เราเหมือนที่มันเคยทำ เมื่อหลายสิบปีก่อน รับไม่ได้จริงๆคือเบาะ แบบนั่งไปแล้วมันไม่เต็มหลัง มันจะมีช่องว่างตรงเลยกลางหลังถึงเอว คือโรงหนังสมัยใหม่ มันมีช่องว่างตรงพับน้อยมาก อันนี้กูเสียวโว้ยยยยย กับพนง ดูบริการเอื่อยๆ (แต่ก็เข้าใจแหละ รุ่นลุงๆป้าๆแทบทั้งนั้น คนก็น้อย เค้าคงเบื่อเหมือนกัน) สุดท้ายแล้ว สำหรับผม ถ้าโรงหนังแห่งนี้จะมีอันต้องปิดตัวไป แบบเดียวกับโรงหนังตามห้างในท้องถิ่นแถวบ้าน ก็ไม่แปลกใจอะไร และไม่เสียดายอะไรมาก เพราะมันเป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็น โรงหนังเอง คงความคลาสสิค ซึ่งแลกกับที่อาจจะไม่ดึงดูดคนสมัยใหม่ให้เข้ามาสัมผัส โรงหนังมีความเก่า เบาะเก่า จอมีรอย และราคาโรง Multiplex ใหม่ๆก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก (แต่ราคาป๊อปคอร์นห่างกันจริงๆ 5555) กาดสวนแก้วไม่ไกลจาก SF(เมญา) แถมทิ้งกลุ่มคนดูซาวน์แทรก เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคก็ต้องเลือกสิ่งที่คิดว่าดีสำหรับตัวเอง ชั่งน้ำหนักกันแล้ว มันก็เลือกไม่ยาก พอไม่มีคนมาดู คนมาดูบางคน(เช่นกู)ก็หลอน เลยพาลไม่ค่อยอยากดู (เลือกดูคนเดียวใน SF ยังดีกว่า) เออ หลอนก็เป็นอีกสาเหตุ กาดสวนแก้วเอง ก็มีส่วน ต่อให้โรงหนังพัฒนาขนาดไหน ถ้าตัวห้างมันยังเก่าต่อไป ร้านค้าถอนออกไปมากกว่านี้ ห้างก็คงไปในที่สุด แล้วโรงหนังก็ต้องไปอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ถ้าห้างเองพัฒนา แต่โรงหนังไม่ คนก็มาเดินห้างน้อยกว่าที่ควรเป็น (มันต้องไปทั้งคู่) ผมไม่ได้บอกว่า จะคงความคลาสสิคไว้ไม่ได้นะ เอาจริงๆไอ้ความคลาสสิคที่ว่า จะนับเป็นจุดขายก็ได้ ถ้าอยากทำจริงๆ เพียงแต่ว่าความเก่าอ่ะ ต้องปรับปรุง เก่ากะคลาสสิคไม่ต้องแพคคู่กันก็ได้ ส่วนที่ไม่เสียดายมาก เพราะไม่ได้โตมากับโรงหนังแบบนี้ เกิดทัน แต่ก็จำแทบไม่ได้ ตอนโรงที่แฟร์ปิดก็ใจหายหน่อยๆ แต่ก็ไม่มาก กลับกัน อีกหลายสิบปี ถ้าโรงแบบ Multiplex ต้องมีอันปิดตัวลง มีโรงหนังแบบอื่นมาแทน คนเลิกดูหนังในโรง หรือโรง SF กะ Major สู่เทคโนโลยีแบบใหม่ไม่ไหว ต้องปิด ผมก็คงจะเสียดาย และใจหายมากๆ ไม่ต่างจากที่หลายคนอาจจะใจหายกับ Vista เมื่อมันต้องปิดม่านลง จอบอ